จากการรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยและร้านสปาไทยในเมืองดูไบพบว่าผู้ประกอบการมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขดังนี้
ปัญหา
-ทางการดูไบออกกฎหมายให้มีการแยกส่วนการบริการสปาและนวดแผนโบราณระหว่างลูกค้าชาย-หญิง โดยที่พนักงานนวดหญิงจะสามารถบริการได้เฉพาะลูกค้าผู้หญิงเท่านั้น และพนักงานนวดชายก็จะสามารถบริการได้เฉพาะลูกค้าผู้ชายเท่านั้น
-ร้านสปาบางร้านไม่ใช่สปาไทย แต่ติดป้ายประกาศว่าเป็นร้านสปาและนวดไทย โดยที่ไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานสปาไทย หรือมีการให้บริการทางเพศแอบแฝง ทำให้ภาพพจน์ของสปาไทยเสียหาย
-พนักงานส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้
-ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ค่อยรวมตัวกัน ต่างคนต่างอยู่ ทำให้ขาดอำนาจในการต่อรองเจรจากับทางการ ในกรณีที่มีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือจากทางการของดูไบ
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
-จำนวนลูกค้าลดลง เพราะเนื่องจากจริงๆแล้ว ลูกค้าทั้งสองเพศชอบการบริการจากหมอนวดผู้หญิงมากกว่า เพราะมีความนุ่มนวลอ่อนโยนมากกว่า
-ต้องเลิกจ้างพนักงานนวดหญิง เพื่อจ้างพนักงานชายมากขึ้น และต้องแบ่งแยกบริเวณให้บริการเป็นสัดส่วนระหว่างหญิงและชายอาจจะต้องลงทุนเพิ่มขึ้น และโดยเอกลักษณ์ของสปาไทยแล้ว พนักงานนวดควรจะต้องเป็นผู้หญิง
-หากไม่ปฎิบัติตามกฎระเบียบก็จะต้องโดนปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก และอาจโดนยกเลิกใบอนุญาต
-ทำให้ลูกค้าบางส่วนไม่กล้าเข้ามาใช้บริการในร้านที่บริการตามปกติ เนื่องจากเข้าใจว่า ทุกร้านมีปัญหาเหมือนกันหมด สร้างความเสียหายให้กับร้านสปาไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
-เมื่อแต่ละร้านมีปัญหาและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ก็อาจจะต้องปิดกิจการไป
แนวทางแก้ไข
-ผู้ประกอบการควรรวมตัวกันเพื่อจะได้มีอำนาจการต่อรองกับทางการของดูไบในกรณีที่มีปัญหาอันเกิดจากข้อกฎหมายหรือระเบียบปฎิบัติต่างๆทางการของดูไบ โดยมีการประชุมกันเพื่อหารือถึงปัญหาและแนวทางการแก้ไขโดยรวม โดยให้ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบเป็น
ผู้ประสานงาน
-ให้หน่วยงานราชการไทย ออกใบรับรองคุณภาพและมาตรฐานของร้านสปาและนวดไทยแผนโบราณให้เป็นไปตามมาตรฐานของไทยเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจที่จะเข้ามาใช้บริการ
-เช่นดียวกับร้านสปาไทย ควรต้องออกใบรับรองให้กับร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามแบบฉบับของร้านอาหารไทย เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจที่จะเข้ามาใช้บริการ
-มีการฝึกอบรมทางด้านภาษาให้กับพนักงานเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับพนักงานที่เป็นคนไทยให้แข่งขันกับคนชาติอื่นๆได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น